โช๊คอัพเป็นส่วนหนึ่งของรถที่มีความสำคัญ สามารถรับแรงกระแทก ลดการสั่นสะเทือนของรถขณะที่ขับขี่ การดูแลรักษาให้โช๊คอัพมีการใช้งานได้ดีอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากการหลีกเลี่ยงขับรถตกหลุมบ่อยๆแล้ว การเปลี่ยนน้ำมันโช๊คก็เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรละเลย
น้ำมันโช๊ค คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร?
น้ำมันโช๊ค คือ น้ำมันที่ช่วยทำให้ระบบกลไกของโช๊คอัพนั้นทำงานได้ดี ช่วยในการหล่อลื่น ป้องกันการสึกหรอ ระบายความร้อน ช่วยให้รถเกิดความนุ่มนวล ลดแรงกระแทก ลดแรงสั่นสะเทือนขณะขับขี่บนท้องถนน
เลือกน้ำมันโช๊ครถมอเตอร์ไซค์เบอร์ไหนดี?
สำหรับการใช้งานนั้นจะต้องเลือกความหนืดของน้ำมันให้มีความเหมาะสมกับรถมอเตอร์ไซค์ที่คุณใช้งาน ซึ่งเบอร์ของน้ำมันนี้เองจะบอกถึงลักษณะของความหนืดได้ สำหรับเบอร์น้ำมันโช๊คที่เหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์ในแบบต่างๆมีดังนี้
- เบอร์ 30 น้ำมันมีความหนืดมาก เหมาะกับประเภทรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถบรรทุกหนัก หรือรถที่สามารถขับตะกุยตามพื้นที่ขรุขระได้ เช่น รถ ATV, รถมอเตอร์ไซค์ 4WD เป็นต้น
- เบอร์ 20 เหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปที่มีขนาด 150 cc, 300 cc, 350 cc และมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่มีขนาด 500-1000 cc และเหมาะกับรถที่มีโช๊คอัพแบบ Upside Down สำหรับน้ำมันเบอร์ 20 นั้นมีความความหนืดในระดับปานกลางสามารถที่จะรองรับน้ำหนักในการขับขี่ได้พอสมควร หากใช้น้ำมันเบอร์นี้ก็จะให้ความรู้สึกนุ่มและหนึบเวลาที่ขับขี่บนท้องถนน
- เบอร์ 10 สามารถที่จะใช้กับกลุ่มของรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันเบอร์ 20 หรือรถที่มีโช๊คอัพแบบ Upside Down สำหรับน้ำมันเบอร์ 10 นั้นจะมีความหนืดลดลง เวลาขับขี่จะให้ความรู้สึกที่นุ่มมากกว่าเบอร์ 20
- เบอร์ 5 เหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้โช๊คอัพแบบ Telescopic น้ำมันมีความหนืดต่ำ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเวลาขับขี่
ใช้น้ำมันโช๊คตรงส่วนไหนของรถมอเตอร์ไซค์?
ให้ใช้น้ำมันโช๊คในส่วนของโช๊คหน้าของรถมอเตอร์ไซค์ โดยแต่ละรุ่นโช๊คหน้าก็จะมีแกนโช๊ค เราสามารถที่จะถอดแกนโช๊คออกเพื่อเปลี่ยนน้ำมันใหม่เข้าไปแทนได้
เลือกน้ำมันโช๊ครถยนต์เบอร์ไหนดี?
ขึ้นอยู่กับการใช้งานรถของคุณ หากรถมีการบรรทุกหนักก็ใช้แบบที่มีความหนืดมาก หากรถไม่ได้บรรทุกอะไรมากก็ใช้แบบความหนืดต่ำลงมา ซึ่งสามารถที่จะนำข้อมูลของการใช้น้ำมันโช๊คสำหรับรถมอเตอร์ไซค์มาปรับใช้ได้เลย
เมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนน้ำมันโช๊ค
สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ควรที่จะเปลี่ยนถ่ายทุก 20,000 กิโลเมตร หากเป็นรถยนต์ควรเปลี่ยนทุก 80,000-100,000 กิโลเมตร หากไม่ทำการเปลี่ยนเวลาใช้งานรถไปนานๆ น้ำมันก็จะเสื่อมสภาพ มีฝุ่น มีคราบสกปรกบริเวณโช๊คอัพ ทำให้ประสิทธิภาพของโช๊คอัพลดลงได้
สำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันโช๊คนั้นควรที่จะทำโดยผู้เชี่ยวชาญ คุณก็จะได้โช๊คอัพที่มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี และพร้อมสำหรับการขับขี่ไปตามถนนที่คุณต้องการ
