โรคระบบทางเดินหายใจในเด็กนั้นเกิดได้จากเชื้อแบคทีเรียหลาชนิด รวมถึง “ไมโคพลาสมา” ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคระบาดได้ วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกับอาการป่วยที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียตัวร้าย ที่แม้จะก่อให้เกิดโรคระบาด แต่เราก็สามารถป้องกันได้
ไมโคพลาสมา คืออะไร
ไมโคพลาสมา คือแบคทีเรียขนาดเล็ก มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Mycoplasma pneumonia เป็นเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง ทำให้เกิดอาการไอ เจ็บคอ หลอดลมอักเสบ และปอดบวมได้ อีกทั้งยังเสี่ยงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่สมอง ตับ และหัวใจ ซึ่งอาจรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้
ใครเสี่ยงติดเชื้อบ้าง?
สำหรับการระบาดของเชื้อไมโคพลาสมาสามารถพบบ่อยในช่วงอายุน้อยกว่า 40 ปี และพบบ่อยมากในเด็กเล็ก รวมทั้งวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 20 ปี อีกทั้งยังพบการติดเชื้อได้ตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน
แหล่งแพร่กระจายเชื้อ
ส่วนใหญ่จะพบการระบาดของเชื้อไมโคพลาสมาในชุมชนปิด สถานที่แออัด เช่น โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ค่ายทหาร เรือนจำ หรือฟาร์มสัตว์ เป็นต้น
ติดต่อทางไหนได้บ้าง?
เชื้อไมโคพลาสมาสามารถติดต่อได้ทางระบบทางเดินหายใจ ติดเชื้อง่ายแค่เพียงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีเชื้อ หรือได้รับละอองเชื้อจากการไอหรือการจามของผู้มีเชื้อ
อาการป่วย?
เมื่อเชื้อไมโคพลาสมาเข้าสู่ร่างกายจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 1-4 สัปดาห์ ซึ่งนานกว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือเชื้อไวรัสโรคปอดอักเสบชนิดอื่น ๆ อาจมีอาการเบื้องต้นดังต่อไปนี้
- ไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส หนาวสั่น
- ไอแห้ง ๆ อาจไอเรื้อรังจนทำให้เจ็บกล้ามเนื้อหน้าอก
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
- เจ็บคอ คันคอ
- อาจพบผื่นแดงตามร่างกาย ลักษณะคล้ายไข้ออกผื่น (ส่าไข้)
- มีอาการติfต่อกันนานเกิน 1 สัปดาห์ โดยอาการไข้อาจหายก่อน แต่ยังมีอาการไออยู่มากกว่า 3 สัปดาห์ จากนั้นอาจหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา
รักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะกลุ่ม macrolides หรือ doxycycline ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลถ้ามีอาการหายใจหอบเหนื่อยมาก หรือมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
ป้องกันได้อย่างไร?
เราสามารถป้องกันได้ ด้วยการปฏิบัติตัวง่าย ๆ ตามนี้
- พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในชุมชนแออัด หรือสวมหน้ากากอนามัย
- ล้างมือบ่อย ๆ รวมทั้งใช้ช้อนกลาง
- ไม่สำส่อนทางเพศสัมพันธ์
แม้ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไมโคพลาสมาจะมีอาการที่ไม่รุนแรงมาก แต่หากเจ็บป่วยคล้าย ๆ อาการโรคไมโคพลาสมาก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ อย่างน้อยไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจรักษาโดยไวก็น่าจะปลอดภัยกว่าคะ