โรคไข้เลือดออกยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ยุงลายกลายเป็นพาหะที่แพร่พันธุ์ได้ดี และแม้จะมีการรณรงค์เรื่องการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงอย่างต่อเนื่อง แต่การป้องกันที่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่งก็คือการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก แต่หลายคนอาจมีคำถามว่า หากเราต้องการรับวัคซีคจะสามารถไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออกได้ที่โรงพยาบาลรัฐหรือไม่ และมีข้อกำหนดใดที่ควรรู้ก่อนไปฉีดวัคซีนบ้าง
วัคซีนไข้เลือดออกในโรงพยาบาลรัฐ: สถานะปัจจุบัน
ในการไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออกที่โรงพยาบาลรัฐสามารถทำได้ แต่ก็มีเงื่อนไขและข้อจำกัดบางประการที่ผู้ไปรับวัคซีนควรรู้ดังนี้
ปัจจุบัน วัคซีนไข้เลือดออกที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในประเทศไทยมี 2 ชนิดหลักๆ คือ
- Dengvaxia (เดงวาเซีย): เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ ใช้สำหรับผู้ที่มีประวัติเคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาแล้วเท่านั้น (ยืนยันได้ด้วยการตรวจเลือดหรือมีประวัติการติดเชื้อที่ชัดเจน) และมีอายุระหว่าง 6-45 ปี วัคซีนชนิดนี้จะฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยเว้นระยะห่าง 6 เดือนต่อเข็ม
-
- สถานะในโรงพยาบาลรัฐ: วัคซีน Dengvaxia ไม่ได้ อยู่ในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศสำหรับทุกคนในปัจจุบัน นั่นหมายความว่าโดยทั่วไปแล้ว ไม่มีให้บริการฟรี ในโรงพยาบาลรัฐเหมือนวัคซีนพื้นฐานอื่นๆ แต่โรงพยาบาลรัฐบางแห่งอาจมีวัคซีนนี้ให้บริการในรูปแบบของการบริการแบบมีค่าใช้จ่าย (Self-paid) ซึ่งผู้ที่ต้องการฉีดจะต้องจ่ายค่าวัคซีนเองทั้งหมด
- เงื่อนไขสำคัญ: ต้องมีประวัติการติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อน เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่าหากฉีดในผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงหากติดเชื้อครั้งแรกหลังฉีดวัคซีนไปแล้ว
- Qdenga (คิวเดงก้า): เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ ซึ่งได้รับอนุมัติให้ใช้ในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ มีข้อดีคือ สามารถฉีดได้ทั้งในผู้ที่เคยเป็นไข้เลือดออกแล้วและยังไม่เคยเป็นไข้เลือดออก และครอบคลุมกลุ่มอายุที่กว้างกว่า คือ ตั้งแต่ 4-60 ปี วัคซีนชนิดนี้ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยเว้นระยะห่าง 3 เดือนต่อเข็ม
-
- สถานะในโรงพยาบาลรัฐ: ในการไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออกที่โรงพยาบาลรัฐ กับวัคซีนชนิดนี้ยังคงเป็นเช่นเดียวกับ Dengvaxia เพราะวัคซีน Qdenga ยังไม่ได้ อยู่ในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคพื้นฐานของประเทศสำหรับทุกคนในปัจจุบัน ดังนั้น โดยทั่วไปแล้ว จะไม่มีให้บริการฟรีในโรงพยาบาลรัฐ แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับนโยบายและการจัดหาวัคซีนของแต่ละโรงพยาบาล
- ความนิยมที่เพิ่มขึ้น: เนื่องจากสามารถฉีดได้โดยไม่ต้องมีประวัติการติดเชื้อมาก่อน ทำให้วัคซีน Qdenga เป็นที่สนใจและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ที่ต้องการป้องกันไข้เลือดออก
สรุปคือหากคุณต้องการไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออกในโรงพยาบาลรัฐ คุณอาจต้องติดต่อสอบถามกับโรงพยาบาลรัฐที่คุณต้องการเข้ารับบริการโดยตรง เพื่อตรวจสอบว่ามีวัคซีนชนิดใดให้บริการบ้าง และมีค่าใช้จ่ายเท่าใด เนื่องจากไม่ได้เป็นวัคซีนพื้นฐานที่ฉีดฟรีสำหรับทุกคน
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
ก่อนตัดสินใจฉีดวัคซีนไข้เลือดออก มีสิ่งที่คุณควรรู้ดังนี้
- ปรึกษาแพทย์: การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด แพทย์จะประเมินสุขภาพของคุณ ตรวจสอบประวัติการเจ็บป่วย และแนะนำชนิดของวัคซีนที่เหมาะสมกับคุณที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวัคซีน Dengvaxia ที่ต้องมีประวัติการติดเชื้อมาก่อน
- ประวัติการติดเชื้อไข้เลือดออก (สำหรับ Dengvaxia): หากคุณต้องการฉีด Dengvaxia และไม่แน่ใจว่าเคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อนหรือไม่ แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเลือดเพื่อยืนยันการติดเชื้อในอดีต
- กลุ่มอายุที่แนะนำ:
- Dengvaxia: อายุ 6-45 ปี ที่มีประวัติการติดเชื้อไข้เลือดออกมาแล้ว
- Qdenga: อายุ 4-60 ปี (ทั้งผู้ที่เคยติดเชื้อและไม่เคยติดเชื้อ)
- จำนวนโดสและระยะเวลาการฉีด:
- Dengvaxia: 3 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน (0, 6, 12 เดือน)
- Qdenga: 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน (0, 3 เดือน)
- ประสิทธิภาพของวัคซีน: วัคซีนทั้งสองชนิดมีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงของโรคและการลดอัตราการนอนโรงพยาบาลได้ดี อย่างไรก็ตาม วัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อได้ 100% และประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันไปตามชนิดของไวรัสไข้เลือดออก (มี 4 สายพันธุ์)
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น: โดยทั่วไปผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยมักไม่รุนแรง เช่น ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด มีไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรืออ่อนเพลีย ซึ่งอาการเหล่านี้มักหายได้เองภายใน 1-2 วัน ผลข้างเคียงที่รุนแรงพบได้น้อยมาก
- ข้อห้ามในการฉีด:
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นจากโรคหรือจากการใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
- หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงต่อส่วนประกอบของวัคซีน
- ผู้ที่มีไข้สูงหรือป่วยเฉียบพลัน ควรรอให้หายป่วยก่อนฉีด
ค่าใช้จ่าย: เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ต้องชำระเงินเอง ค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาล โดยรวมแล้วค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวัคซีนพื้นฐานอื่นๆ ควรสอบถามราคาจากโรงพยาบาลโดยตรงก่อนตัดสินใจ